Khon@Work

บ่อยครั้งเราจะพบว่า ผู้บริหารระดับสูงบางคนก็เพิ่งจะได้รับการฝึกฝนทางด้าน Leadership ตอนที่เพิ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงนี้เอง >>>

การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับโครงสร้างทางวัฒนธรรมองค์กร มีผลในการแสดงให้เห็นถึงผลการจัดการโดยรวมที่ดี >>>

คำว่าการเรียนรู้แบบพอดีคำนั้น ไม่ได้หมายความเพียงแค่ลดระยะเวลาของหลักสูตรให้เหลือเพียงไม่กี่นาที ...WoW!!!

หลายคนที่อ่านถึงตอนนี้ก็คงรู้ดีว่า ขั้นตอนที่ยากที่สุดก็คือ การเริ่มต้น และยากกว่านั้นก็คือ เริ่มต้นให้ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง.....>>>

เพราะถ้าพนักงานยังไม่สามารถที่จะหยุดเรียนรู้ได้ เราในฐานะผู้ที่ส่งเสริม ให้เกิดการเรียนรู้ในองค์กร ก็ไม่สามารถที่จะหยุดเรียนรู้ได้เช่นกัน

การพัฒนาผู้บริหาร หรือ leadership development ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เฉพาะเจาะจงแค่ผู้บริหารในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังหมายถึง......

ทำอย่างไรให้คนเหล่านี้สามารถส่งต่อความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่สำคัญ (Critical Experience) ไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นอนาคตขององค์กร

เรื่องสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่จะทำให้เกิด Learning Transfer หรือการนำความรู้ทักษะที่ได้ไปใช้ในการทำงาน

Purposeful Leadership สามารถตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานในยุคปัจจุบันได้จากการที่สร้างโอกาส สร้างคุณค่าให้ทีมงานยึดเกาะร่วมกัน

เพราะหาก HR ยังมีคำพูดที่บอกกับตัวเองด้วยประโยคแบบนี้ จะเป็นกับดักสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อการเป็น HR Business Partner หรือ Stretegic HR

สุดท้ายการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้เรียนแม้จะไม่ใช่ยาวิเศษที่จะรักษาจูงใจทุก ๆ คนให้อยู่กับองค์กรได้.....แต่ก็เป็นหนึ่งในรากฐานที่ดี

ในทุก ๆ 5 คน จะมีพนักงานอายุน้อย 1 คนที่เจอประสบการณ์อันเลวร้ายในที่ทำงาน รู้สึกถูกเหยียดจากสังคมในที่ทำงานด้วยพื้นเพ (Personal Background)

โดยประสบการณ์ที่อยู่ในเวทีการทำงาน HR มากกว่า 30 ปี ผมได้คำตอบกับตัวเองว่า การสื่อสารจาก HR เป็นอะไรมากกว่าการสื่อสารปกติธรรมดา

Dave Ulrich ปรมาจารย์ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล เป็นคนแรก ๆ ที่พูดถึงบทบาทของ HR ในฐานะที่เป็น Strategic Partner...

การปลูกฝังจิตสำนึกของพนักงานในการแยกเวลางานออกจากเรื่องส่วนตัวก็เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง

การทำ EX เพื่อให้เข้าถึงทุกปฏิสัมพันธ์ (Touch point) ที่องค์กรมีกับพนักงานจะต้องใช้เวลาพอสมควร และควรจะทำให้ครบถ้วนตลอดทั้ง Employee Journey

ถ้าหากรูปแบบการทำงานเปลี่ยนไป สถานการณ์ในทางธุรกิจเปลี่ยนไป จะต้องใช้วัฒนธรรมองค์กรแบบไหนที่จะมาสนับสนุนธุรกิจของตน

การทดสอบความสามารถของผู้เข้าอบรมในการนำทักษะที่ได้เรียนรู้มาใช้ระหว่างการทำงาน มากกว่าในห้องเรียน

การที่จะทำให้เกิดสภาวะ “win-win” หรือ positive sum game จึงเป็นสิ่งที่บริษัทและพนักงานควรได้รับด้วยกันทั้งคู่

HR ยุคใหม่ ต้องคิดใหญ่ ใจกว้าง วางฐานคิด พัฒนาจิตให้ละเอียด ลึกซึ้ง เข้าถึงรู้ทันการเปลี่ยนแปลง และรู้จักที่จะชื่นชมความงามของธรรมชาติ